อีเมล์ :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
ปรับขนาดตัวอักษร
เปลี่ยนการแสดงผล
แปลภาษา
เหตุผลหลักที่เลือก
จังหวัดสงขลา เป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของทางภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งเป็นฐานผลิต ของภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญต่างๆ ไม่วาจะเป็นอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเล อุตสาหกรรมยางพารา และอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ เป็นต้น โดยผลจากการพัฒนาที่ผ่านมา ทำให้จังหวัดสงขลาเป็น“ศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้” มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม 243,229 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ และอันดับที่ 14 ของประเทศ จังหวัดสงขลายังเป็นชุมทางการขนส่งสินค้ามาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นช่องทางรถยนต์ รถไฟ และทางเครื่องบิน นอกจากนี้ยังมีด่านชายแดนสะเดา (ด่านศุลกากรสะเดา) ที่ติดกับด่านชายแดนปาดังเบซาร์ ซึ่งเป็นประตูการค้าที่สำคัญ ในปี 2566 ด่านศุลกากรสะเดาจัดเก็บรายได้รวม 5,210 ล้านบาท และมีมูลค่าก่ารนำเข้า - ส่งออก รวม 329,529 ล้านบาท
จังหวัดสงขลา เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ในการจัดงานที่หลากหลายรูปแบบและมีจำนวนมาก ที่สามารถครอบคลุมการจัดงานได้ทุกประเภท อาทิ งานแต่งงาน งานเลี้ยงรุ่น เป็นต้น ด้วยความพร้อมของสถานที่จัดงานที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ ที่มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดงานประเภทต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้น จังหวัดสงขลายังมีสถานที่จัดงาน ที่ได้รับมาตรฐานสถานที่จัดงานในระดับประเทศ Thailand MICE Venue Standard (TMVS) และระดับสากล ASEAN MICE Venue Standard (AMVS) กว่า 20 แห่ง โดยในปัจจุบัน จังหวัดสงขลามีเป้าหมายในการเป็นเมืองจุดหมายปลายทางการจัดงานไมซ์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดังนั้น จังหวัดสงขลา จึงเป็นเมืองไมซ์ 1 ใน 10 เมืองในประเทศไทยที่มีศักยภาพในการรองรับ การจัดงานไมซ์ทุกรูปแบบ อาทิ การจัดงานประชุมและงานประชุมวิชาการนานาชาติ การจัดงานอีเว้นต์ การจัดงานแสดงสินค้า เป็นต้น
จังหวัดสงขลา เป็นหนึ่งในพื้นที่เชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มีด่านพรมแดนติดกับ ประเทศมาเลเซีย 3 ด่าน มีท่าเรือน้ำลึก มีการคมนาคมขนส่งกับทางรางกับประเทศเพื่อนบ้าน มีท่าอากาศยานนานาชาติให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่ม IMT-GT และกลุ่ม 5 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นกลไกในการขับเคลื่อนพื้นที่เศรษฐกิจ โดยเฉพาะการเป็นเมืองแห่งจุดหมายปลายทาง ของการจัดประชุม สัมมนา การจัดงานแสดงสินค้า และงานอีเว้นท์
จังหวัดสงขลา มีความหลากหลายทางพหุวัฒนธรรม สืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยอดีต ซึ่งในปัจจุบัน ทั้งคนไทยพุทธ-คนไทยเชื้อสายจีน และ คนไทยมุสลิม สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ มีการยอมรับและเคารพความแตกต่าง และร่วมกันส่งเสริม รักษาเอกลักษณ์ ประเพณีและวัฒนธรรม ที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัว เห็นได้จากวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และด้านอาหารท้องถิ่นต่างๆ ที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนในพื้นที่หรือ นักท่องเที่ยวเองก็สามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันได้ รวมถึงการส่งเสริมกิจกรรมในลักษณะการจัดอีเว้นต์ ก็จะเกิดขึ้นในแต่ละเดือน ตามเทศกาล งานประเพณี หรือกิจกรรมอื่นๆ